5 - 7 มิถุนายน 2567  | 
 
ไบเทคกรุงเทพ

เกี่ยวกับ CIOSH ประเทศไทย

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งระหว่าง จีนและไทย

CIOSH ได้ขยายความสนใจไปยังตลาดต่างประเทศหลังวางรากฐานได้อย่างมั่นคงในประเทศจีน โดยประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศสำคัญในโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road)” และ “เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 (The 21st Century Maritime Silk Road)” ถือเป็นเป้าหมายแรกภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศของ CIOSH

งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีนานาชาติสำหรับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (CIOSH Thailand) ซึ่งจัดโดย China Textile Commerce Association, Messe Düsseldorf (Shanghai) Co., Ltd. และ Messe Düsseldorf Asia Pte Ltd. มุ่งมั่นที่จะสร้างเวทีชั้นนำสำหรับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการจัดแสดงอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการทำงานและเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่หลากหลาย เพื่อความความปลอดภัยในการทำงานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

About CIOSH Thailand
คุณสนใจที่จะเข้าร่วมหรือไม่?

สร้างความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจจากหลากหลายอุตสาหกรรม นำเสนอประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์โดยตรงแก่ผู้ซื้อกลุ่มเป้าหมาย และนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ

ทำไมต้องเป็นประเทศไทย?

เป็นศูนย์กลางอาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประเทศประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะตลาดเกิดใหม่และประเทศอุตสาหกรรมใหม่ โดยประเทศไทยมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียน มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 5% และตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้รับประโยชน์จากความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ และความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งระหว่าง จีนและไทย

ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและไทยได้ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 11 ปี และด้วยโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road)” และยุทธศาสตร์ “ก้าวสู่ระดับโลก (Going Global)” ของประเทศจีน ควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย ทั้งสองประเทศได้ทำการวางกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า การลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวิสาหกิจของทั้งสองประเทศในการพัฒนาตลาดภายในประเทศ ตลอดจนตลาดระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ

มีความต้องการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ในระดับสูง

ตลาดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 8.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573 ปัจจุบันตลาดของประเทศไทยมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาค คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 21% ของตลาดรวมในปี พ.ศ. 2565 โดยได้รับแรงผลักดันจากอุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ การกลั่นน้ำมัน การผลิตโลหะ และยานยนต์ ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

Top